การมองถึงเรื่องการบริหารงานบุคคลในส่วนราชการในอดีตที่ผ่านมา อาจมองเห็นไม่ค่อยเป็นรูปธรรมและไม่ค่อยมุ่งตรงไปที่บุคคลมากนัก จะเป็นการมองข้ามผ่านเป็นแบบผิวเผิน การคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของข้าราชการ ก็ไม่ชัดเจน ซึ่งขัดแย้งกับการบริหารจัดการที่ทางทฤษฎี ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง "คน" ว่ามีความสำคัญมากกว่า M อื่น ๆ ใน 4 สำหรับการบริหารงานบุคคลในปัจจุบันรัฐจะเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของข้าราชการ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนการบริหารงานบุคคลในแนวใหม่ โดยเป็นโฉมใหม่ของเรื่องการบริหารงานบุคคล
โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.พ. ครั้งที่ 9/2553 ณ ห้องประชุม 3210 สำนักงาน ก.พ. จังหวัดนนทบุรี โดยที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบในเรื่อง "ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการพลเรือนสามัญ
พ.ศ. 2554 - 2556" ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์รวม 4 ด้าน ได้แก่
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการด้านการทำงาน ได้แก่ การพัฒนาสภาพแวดล้อม ระบบวิธีการทำงาน และการบริหารทรัพยากรบุคคลตามหลักคุณธรรม เพื่อให้ข้าราชการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีขวัญกำลังใจและแรงจูงใจในการสร้างสรรค์และส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพแก่ประชาชน และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่2 การพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการด้านส่วนตัว ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพจัดเวลาการทำงานให้เหมาะสมเพื่อให้ข้าราชการมีความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ มีความสุข มีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานกับชีวิตส่วนตัว
ยุทธศาสตร์ที่3 การพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการด้านสังคม ได้แก่ การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร การมีจิตสาธารณะเพื่อให้ข้าราชการทุกระดับมีความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกัน มีความสามัคคี มีความรักและความภาคภูมิใจในองค์กรที่ปฏิบัติงาน
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการออมและบริหารจัดการทางการเงินและการจัดสวัสดิการของส่วนราชการเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและดำเนินชีวิตด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
|