คำตอบ
1. แบบประเมินคุณสมบัติของบุคคล (เอกสารหมายเลข 1-4) ที่ผ่านการตรวจสอบและแก้ไขจากฝ่ายสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง มาแล้ว ให้ผู้ขอรับการประเมินดำเนินการแก้ไขเป็นเอกสารชุดที่แก้ไขสมบูรณ์(ผ่านการจัดปรับแก้หน้าเอกสารและตัวอักษรเรียบร้อยแล้ว) และถ่ายสำเนาจากชุดเอกสารดังกล่าว จำนวน 10 เล่ม ทั้งนี้จะต้องคงการลงนามจากผู้บังคับบัญชาและผู้ร่วมโครงการในชุดเอกสาร ทั้ง 10 เล่มนั้นด้วย
2. เอกสารผลงานวิชาการ ให้ผู้ขอรับการประเมินจัดทำและส่งผลงานวิชาการฉบับสมบูรณ์ที่เป็นชื่อเรื่องเดียวกันกับผลงานและครบตามจำนวนที่เสนอไว้กับคณะกรรมการคัดเลือกบุคคล จำนวนเรื่องละ 10 เล่ม
3. เอกสารประกอบ (ไม่รวมในเล่มผลงานวิชาการและในเล่มแบบประเมินคุณสมบัติของบุคคล) ได้แก่
3.1 หนังสือนำส่งคำขอประเมิน เพื่อขอรับการประเมินบุคคลและผลงาน โดยหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอรับการประเมิน เรียน ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่
3.2 หนังสือแจ้งเวียนมาตรการป้องกันและลงโทษผู้แจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับคุณสมบัติและผลงานของบุคคลในการขอรับการประเมินบุคคล โดยหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ขอรับการประเมินเป็นผู้ดำเนินการ แจ้งเวียนผ่านทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นๆ มีกำหนดระยะเลาการแจ้งเวียนมาตรการไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ
3.3 ประกาศของหน่วยงานต้นสังกัด เรื่อง ตรวจสอบผลงานของผู้ขอรับการประเมิน พร้อมการรับรองผลงานของผู้ร่วมจัดทำผลงาน ระบุชื่อผลงานวิชาการ เลขทะเบียนวิชาการ/วิจัย และสัดส่วนการปฏิบัติงาน
3.4 กรณีมีการเปลี่ยนชื่อผลงานวิชาการภายหลังจากการเข้ารับการพิจารณาของคณะกรรมการวิชาการหน่วยงานต้นสังกัด หรือสำนัก/กอง/เขต/ อื่นๆ ผู้ขอรับการประเมินจะต้องจัดทำหนังสือหรือรายงานการประชุมฯ เพื่อชี้แจงเหตุผลการขอเปลี่ยนชื่อผลงาน โดยการเปลี่ยนชื่อผลงานต้องไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่อาจทำให้สาระสำคัญของเรื่องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
3.5 สำหรับตำแหน่งนายสัตวแพทย์ ให้ส่งสำเนาใบประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง ทั้งนี้ ใบประกอบวิชาชีพจะต้องไม่หมดอายุก่อนในวันที่ส่งเอกสารประเมินบุคคลและผลงานแก่กองการเจ้าหน้าที่ หากใบประกอบวิชาชีพฯหมดอายุจะต้องทำการต่ออายุ โดยให้เป็นวันที่ย้อนหลังในวันที่หมดอายุนั้น จึงจะสามารถส่งผลงานเข้าพิจารณาได้
3.6 ต้นฉบับแบบประเมินคุณสมบัติของบุคคลส่งคืนให้กองการเจ้าหน้าที่